Download App

Chapter 78: ภาคต่อตอนที่ 24 ข่าวร้ายจากชิงไห่

ความรุนแรงของลมพายุพัดพาข้าวของเครื่องใช้ต่างๆที่มีน้ำหนักเบาบางปลิวว่อนผสมรวมกับฝุ่นผงบนพื้นดินที่แห้งแล้งทำให้ดูคล้ายพายุทรายขนาดใหญ่กินพื้นที่นับลี้ สร้างความตื่นตระหนกและหวาดกลัวแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งนัก

เมื่อหาที่หลบซ่อนปลอดภัยได้แล้ว ทุกสายตาพลันจับจ้องไปบนฟ้าเป็นจุดเดียว ที่นั่นจากความสูงกว่าหนึ่งลี้ มีสิ่งมีชีวิตคล้ายวิหคกำลังกระพือปีกอันใหญ่โตขึ้นลงอยู่กับที่ การกระพือปีกแต่ละครั้งก่อเกิดเป็นลมพายุขนาดใหญ่จนบ้านเรือนสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นแทบจะแตกออก เป็นเสี่ยงๆ

ความกว้างของปีกหากกางออกเต็มที่ กะด้วยสายตาคงไม่น้อยกว่าหนึ่งลี้นั่นคือความกว้างของปีกเพียงข้างเดียว!

รูปร่างหน้าตาคล้ายของมันคล้ายเหยี่ยวแตกต่างตรงขนาดและสีขน วิหคตัวนี้ปกคลุมด้วยขนสีแดงเพลิง ทำให้ดูร้อนแรงดุจไฟประลัยกัลป์ที่ผุดขึ้นจากใต้พิภพ ขณะเดียวกันก็เปล่งประกายงดงามยากจะหาใดเปรียบ น่าเกรงขามทว่างดงามชวนให้หลงใหล นั่นคือคำนิยามในสายตาของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์

ในคราแรกชิงหลินรู้สึกไม่ต่างจากคนอื่น ครั้นพอได้เห็นความงดงามของวิหคสีแดงเพลิง ที่ปรากฏตัวออกมาได้อย่างยิ่งใหญ่ราวกับพระเอกหนังฟอร์มยักษ์ ก็อดทึ่งไม่ได้ อา..สวย...สวยเหลือเกิน..ถ้าขอให้มาเป็นแบบวาดรูป จะยอมรึเปล่านะ..

"นั่นคือ ท่านพญาหงส์เพลิง เจ้าแห่งวิหคขอรับ"เหยี่ยวหนุ่มร้องบอกหลังบินลงมาเกาะแขนหลินหลินอีกครั้ง

"ทำไมเร็วนัก? เจ้าพึ่งจะมาแจ้งข้าไม่ทันจบความดีเลย"ส่งเสียงถามทางจิต

"เพราะข้าไม่ได้แจ้งว่าจะมาเมื่อใดอย่างไรเล่า?"เสียนั้นทำให้ชิงหลินตัดสินใจเดินออกมาเผชิญหน้ากับผู้เป็นเจ้าของเสียงไม่ฟังคำทัดทานของเหล่าผู้ติดตามอย่างสองสาวใช้และกองกำลังหลิ่งหลินทั้งสิบ ยกเว้นสี่สหายน้อยที่เดินตามหลังหลินหลินต้อยๆไม่ร้องทักท้วง ด้วยรู้ดีว่าพญาหงส์เพลิงไม่มีวันทำร้ายหลินหลินของพวกมันอย่างแน่นอน

"เอ่อ..โปรดหยุดกระพือปีกที่ทรงอำนาจก่อนจะได้หรือไม่?"ชิงหลินตะโกนขอร้องทางจิตทันที สองมือยกขึ้นมาป้องตากันฝุ่นที่ฟุ้งกระจายเพราะการกระพือปีกของวิหคเพลิง มีเสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ยช่วยพยุงไว้ทั้งที่กลัวจนตัวสั่น ด้านหน้าคือสี่สหายน้อยยืนเรียงแถวหน้ากระดาน มีกองกำลังหลิ่งหลินทั้งสิบนายขวางไว้อีกชั้นยืนจังก้าอยู่ในท่าเตรียมพร้อม สายตาทั้งสิบคู่จดจ้องอยู่ที่ร่างของวิหคเพลิงสีหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ มีเพียงดวงตาที่สั่นไหวชัดเจน

พวกเขาไม่ได้หวาดเกรงต่อความตาย แต่เกรงจะปกป้องนายหญิงของตนไม่ได้ ด้วยพลังอำนาจที่แผ่กดดันออกมาจากวิหคเพลิงตัวนี้ช่างมากมายมหาศาล เกินกำลังความสามารถที่พวกตนจะต่อกรด้วยได้ ฝีมือมันคนละชั้นกัน

พญาหงส์เพลิงไดยินจึงยอมหดร่างเล็กลงจนมีขนาดเทียบเท่าเหยี่ยวหนุ่มที่มาส่งข่าว บินลงมายืนบนโต๊ะด้วยท่วงท่าที่สง่างาม หัวเชิดขึ้นอย่างเย่อหยิ่งและไว้ตัว ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมาที่ร่างสตรีบอบบางดูไร้พิษสงอย่างพิจารณา

"เหยี่ยวเวหาแจ้งว่าท่านต้องการพบข้า?"ชิงหลินเดินเข้ามานั่นเก้าอี้ที่โต๊ะนั้นพลางเอ่ยถามทางจิต

"ถูกต้อง ข้าได้ยินชื่อเสียงเจ้าจากบรรดาวิหคทั้งหลาย จึงอยากจะพบปะสนทนาด้วยสักครา"พญาหงส์เพลิงส่งเสียงตอบทางจิตเช่นเดียวกัน

"เป็นเกียรติมากเจ้าค่ะ ข้าเองก็อยากพบท่านเช่นเดียวกัน"นางค้อมศีรษะให้พญาหงส์เพลิงอย่างนอบน้อมดวงตากลมโตเปล่งประกายจริงใจ สร้างความพึงพอใจแก่พญาหงส์เพลิงไม่น้อย หงส์เพลิงมีชีวิตมากว่าพันปีพบเห็นสิ่งต่างๆมากมายรวมถึงสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์ เพราะมนุษย์สำหรับหงส์เพลิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่เย่อหยิ่ง จองหอง ยโสโอหังเห็นแก่ตัวทั้งยังละโมบโลภมาก เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ารังเกียจที่สุด

และเพื่อยืนยันถึงสิ่งที่ได้ยินได้ฟังมาจากเหล่าวิหคและสิงสาราสัตว์ตัวอื่นๆกับความคิดของมัน หงส์เพลิงจึงยอมออกจากการบำเพ็ญเพียรมาพบนางด้วยตัวเอง และนั่นคือเหตุผลที่หงส์เพลิงอยู่ที่นี่

ขณะเดียวกัน ภาพเหตุการณ์สุดอัศจรรย์ระหว่างธิดาสวรรค์กับพญาหงส์เพลิง ได้สร้างความตื่นตะลึงให้แก่ชาวบ้านหลายร้อยชีวิตที่เฝ้าจับตาดูอยู่ตลอดตั้งแต่ต้นยิ่งนักคิดไปต่างๆนานา แต่ไม่มีผู้ใดคิดว่านางเป็นปีศาจจำแลงกายลงมาเพื่อหลอกลวงมนุษย์เลยแม้แต่คนเดียว

อา...กล้าเผชิญหน้ากับหงส์เพลิงตรงๆ ทั้งยังดูเหมือนทำให้หงส์เพลิงยอมหดร่างจนเหลือขนาดเท่ากับวิหคทั่วไปได้ นอกจากธิดาสวรรค์แล้วจะยังมีผู้ใดสามารถทำได้อีกเล่า

สุดท้ายต่างลงความเห็นว่าฮูหยินน้อยท่านแม่ทัพคือ ธิดาสวรรค์ ตัวจริงเสียงจริง ที่จุติจากสวรรค์มาเพื่อช่วยเหลือพวกเขาให้รอดพ้นจากความตายและความสิ้นหวัง

"..ท่านพญาหงส์เพลิง เพียงแค่อยากมาคุยกับหลินหลินของพวกเราเท่านั้นหรือ?"

"....เจ้าก็คือลูกเจ้าพยัคฆ์โคร่งขาว?"หงส์เพลิงส่งเสียงถามทางจิต ดวงตาสีแดงเพลิงมองลูกพยัคฆ์ตัวเท่าแมวเต็มวัยที่แหงนหน้ามองขึ้นมาชั่ววูบหนึ่ง แล้วเบนสายตามองลูกพยัคฆ์อีกตัวที่ยืนอยู่ข้างมัน ยังมีร่างสีขาวปลอดของสองจิ้งจอกอีกด้วย อา...ดูเหมือนสตรีผู้นี้จะเป็นที่รักของสิงสาราสัตว์มากเลยทีเดียว อืม...เมื่อเป็นเช่นนี้ค่อยน่ายื่นมือเข้าช่วยหน่อย

"ถูกต้องแล้วขอรับ"ฟงฟงน้อยตอบแทนน้องชาย

"อา...มาอยู่กับมนุษย์อ่อนแอเช่นนี้ พวกเจ้าได้สิ่งใดเป็นสิ่งตอบแทนรึ?"หงส์เพลิงแสร้งถามลองใจสี่สหายน้อย

"หลินหลินไม่ได้อ่อนแอนะ อีกอย่างเรามาอยู่กับหลินหลิน เพราะหลินหลินอ่อนโยน จิตใจดีและอบอุ่นต่างหาก ไม่ได้หวังสิ่งใดตอบแทนเสียหน่อย"ฟานฟานน้อยรีบแก้ตัวและปกป้องหลินหลินไปพร้อมกัน อ้อ...เกือบลืมไป มีนมแพะที่มันชื่นชอบด้วย

"ใช่ๆเจ้าค่ะ หลินหลินของเราดีที่สุดเจ้าค่ะ"หมั่นโถวน้อยร้องเสริมผงกหัวขึ้นลงถี่ยิบคล้ายเกรงว่า พญาหงส์เพลิงจะมิเชื่อ มีฟงฟงและเป่าเปา ผงกหัวตามสนับสนุนอีกแรง

"หึ..ดูเหมือนเจ้าจะเป็นที่รักของใครต่อใคร ดังที่ข้าได้ยินมาจริงๆ"หงส์เพลิงหันมากล่าวกับสตรีร่างบอบบาง

ชิงหลินเพียงยิ้ม เพราะหากยอมรับอาจถูกมองว่าหลงตัวเองกลับกันหากปฏิเสธพญาหงส์เพลิงก็จะดูถูกเธอได้ว่าไม่มีความจริงใจ ไม่ว่าทางไหนก็ไม่เป็นผลดีทั้งนั้น

"ฮูหยินน้อย"หมายเลขหนึ่งเอ่ยเรียกนายหญิง

"มีอะไรหรือ?"ชิงหลินหันมาทางองครักษ์หนุ่ม

"เอ่อ..ท่านควรเปลี่ยนที่คุยนะขอรับ"หมายเลขหนึ่งกล่าวเตือน เขาถูกท่านแม่ทัพกำชับเรื่องนี้เป็นพิเศษ ด้วยฮูหยินน้อยมักจะกระทำการวู่วามขาดความระมัดระวังจึงต้องมีคนคอยเตือนอยู่ใกล้ๆ

ยามนี้ฮูหยินน้อยอยู่ในที่แจ้งท่ามกลางสายตาหลายร้อยคู่ ที่เฝ้าดูเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์อยู่ อาจเป็นโอกาสให้คนร้ายอาศัยช่วงจังหวะที่ทุกคนขาดความระมัดระวังนี้ก่อเหตุขึ้นมาก็เป็นได้

"อา...นั่นสินะ ขอบใจที่เตือนนะหมายเลขหนึ่ง"หมายเลขหนึ่งลอบถอนใจ มุมปากยกยิ้มยินดีที่ฮูหยินน้อยไม่ขุ่นเคืองกับคำเตือนจากข้ารับใช้ต่ำต้อย หนำซ้ำยังรับฟังคำเตือนและยังกล่าวขอบคุณตนอีก อา...นับเป็นวาสนาที่ได้ติดตามรับใช้นายหญิงที่วิเศษเช่นนี้

"หลินเอ๋อร์!" "พี่เหวิน? ทำไมมาอยู่ที่นี่เจ้าคะ?"พูดพลางส่งยิ้มให้ ดวงตากลมโตจับอยู่กับร่างสูงใหญ่ที่ก้าวเร็วๆตรงมาหานาง ใบหน้าหล่อเหลาดูร้อนใจอย่างเห็นได้ชัด

"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"แม่ทัพหนุ่มเมินคำถามของนางย้อนถามเสียงห่วงกังวล สองมือจับไหล่เล็กหมุนไปมาพร้อมกับใช้สายตาสำรวจร่างเล็กบอบบางอย่างละเอียดถี่ถ้วน ครั้นเห็นว่านางปกติดีทุกประการก็ถอนใจแรงออกมาหนหนึ่ง

"...หลินเอ๋อร์สบายดีเจ้าค่ะ"ยิ้มตอบพร้อมกับแกะมือใหญ่ที่กุมไหล่ตนมาจับไว้แทน

"อืม..พี่เห็นแล้ว...แล้วนี่คือ..."มู่หลิ่งเหวินตอบกลับด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายจากนั้นหันไปหรี่ตามองวิหคสีแดงเพลิงที่ยืนอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาที่ล้ำลึกยากจะคาดเดา

แม่ทัพหนุ่มได้รับรายงานว่าเกิดเหตุกับภรรยาจึงรีบรุดมาที่นี่ด้วยความร้อนใจและเป็นห่วงความปลอดภัยของนาง

"เอ่อ..กลับเรือนพักรับรองก่อนดีไหมเจ้าคะ?"ชิงหลินกล่าวพร้อมกับกวาตาไปรอบๆเป็นนัยว่าที่นี่ไม่ค่อยสะดวกที่จะคุย ซึ่งแม่ทัพหนุ่มพยักหน้าเห็นด้วย

"เดี๋ยวเจ้าค่ะ...ท่านพญาหงส์เพลิง จะให้เกียรติไปกับพวกเราได้หรือไม่?"ส่งกระแสจิตถามหงส์เพลิงที่ยังคงยืนนิ่ง

"แน่นอน เพราะข้ายังมีเรื่องที่ต้องพูดกับเจ้าอีก"หงส์เพลิงตอบด้วยท่าทางถือดีตามแบบผู้ที่เหนือกว่ากระพือปีกสีแดงเพลิงบินไปเกาะแขนขวาเล็กๆที่ยื่นออกมาข้างหน้า

"หลินหลิน ฟานฟานเดินต่อไม่ไหวแล้ว"เจ้าพยัคฆ์น้อยที่ไม่ชอบให้ใครเด่นกว่าส่งสายตาออดอ้อน หูลู่หางตกให้ดูน่าสงสารกับหลินหลิน

"เจ้าอิจฉาวิหคสีแดงเพลิงตัวนี้รึ?"แม่ทัพหนุ่มคล้ายจะเดาความคิดของเจ้ามารน้อยถูกจึงแสร้งถามเย้ยหยันมันทางจิต

"...เจ้าอย่ายุ่ง! ฮื่อออ"เจ้าพยัคฆ์น้อยแยกเขี้ยวส่งเสียงขู่ทางจิต ใช้เท้าทั้งสี่ย่ำไปบนหลังเท้าของแม่ทัพหนุ่มด้วยความขุ่นเคืองที่บังอาจรู้เท่าทันความคิดมันสะบัดก้นใส่อีกครั้งปิดท้าย

"ฮึ!"แม่ทัพหนุ่มแค่นเสียงฮึออกมาคำหนึ่ง ส่ายหน้าระอากับความอันธพาลของเจ้ามารน้อยขี้อิจฉา ต่อมายกยิ้มอ่อนโยนเมื่อจิ้งจอกน้อยเข้ามาคลอเคลียขาครางหงิงๆ มือหนาจึงอุ้มมันขึ้นมา เจ้าหมั่นโถวน้อยได้ใจรีบซุกหน้าลงกับหน้าอกกว้างที่แสนจะอบอุ่นทันที ไม่นำพาสายตาขุ่นเคืองของหัวหน้าแก๊ง

"...หลินหลิน.."ฟานฟานน้อยจึงสะบัดหัวหันมาส่งสายตาออดอ้อนหลินหลินอีกครั้ง

"เจ้านี่นะ"ชิงหลินเห็นแล้วส่ายหน้าย่อตัวลงอุ้มมันขึ้นมาแนบอกด้วยมือข้างเดียวเพราะอีกข้างถูกหงส์เพลิงยึดไปแล้ว

เจ้าพยัคฆ์น้อยซุกหัวลงกับอกนุ่มหยุ่นหอมกรุ่นของหลินหลิน ถูไถใบหน้าไปมาครู่หนึ่งแล้วเชิดหัวขึ้นส่งสายตาเยาะเย้ยให้แม่ทัพหนุ่ม เล่นเอาใบหน้าหล่อเหลากระตุกและมีริ้วแดงจางๆพาดผ่านลามไปถึงใบหู ฮึ่ม...ย่ามันเถิด!..กล้าลวนลามภรรยาข้าต่อหน้าข้าเชียวรึ..มันน่าจับมาถลกหนังเอามาเป็นผ้าพันคอนัก!

"...พี่เหวิน ไปเถิดเจ้าค่ะ"ชิงหลินกลั้นยิ้มกล่าวกับสามีที่ยืนหน้าบึ้งถลึงตาใส่ฟานฟานน้อยราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ แขนข้างหนึ่งอุ้มเจ้าหมั่นโถวจอมขี้แย ช่างเป็นภาพที่ขัดแย้งกันอย่างยิ่ง ชายชาตินักรบอุ้มลูกจิ้งจอกน้อยน่ารักทะเลาะกับสัตว์ตัวเล็กๆ พูดได้คำเดียวน่ารักจัง!

ฝ่ายแม่ทัพหนุ่มได้ยินก็ชะงักหันมาส่งยิ้มให้ มือข้างที่ว่างโอบเอวคอดกิ่วมุ่งกลับเรือนพักพร้อมผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง

ส่วนฟงฟงน้อย เป่าเปาน้อย สงบเสงี่ยมอยู่ในอ้อมแขนของเสี่ยวอี้ เสี่ยวสุ่ย มันทั้งสองรู้สึกหน้าชาไม่คิดว่าหัวหน้าจะกระทำเรื่องน่าอายคล้ายกับอันธพาลเช่นนี้ไปได้

พอคล้อยหลังชาวบ้านทั้งหลายก็พากันออกมาจากที่ซ่อน ดวงตาทุกคู่ยังคงจับอยู่ทิศทางที่ท่านแม่ทัพและธิดาสวรรค์เดินจากไปด้วยสายตาหลากหลาย "ท่านแม่ ข้าอยากตามไปดูพี่ธิดาสวรรค์ ท่านพาข้าไปได้ไหมขอรับ?"เด็กน้อยคนหนึ่งขอมารดา

"...ท่านพ่อข้าก็อยากไปดูพี่ธิดาสวรรค์เจ้าค่ะ ให้ข้าไปนะเจ้าคะ?"เด็กน้อยอีกคนที่อยู่ใกล้ๆร้องขอบ้างมือน้อยกระตุกแขนเสื้อบิดาเบาๆ "ได้..พ่อจะพาเจ้าไป เจ้าจะไปด้วยรึไม่?"

"แน่นอน ข้าต้องไปอยู่แล้ว แล้วพวกเจ้าจะไปด้วยรึไม่?"

"ข้าไป"

"ข้าไป"

"ข้าก็ไป"

เมื่อตกลงกันได้แล้วชาวบ้านกว่าร้อยชีวิตจึงได้พากันมุ่งหน้าไปจวนนายอำเภอจินเฉวียน ในระหว่างทางมีพูดคุยถกเถียงกันไปต่างๆนานา ว่าหงส์เพลิงมาที่นี่เพราะเหตุใด? แล้วภัยแล้งที่เกิดขึ้นเกือบสามปีจะเกี่ยวข้องกับหงส์เพลิงหรือไม่? เป็นต้น

------------

ภายในเรือนพักรับรอง ยามนี้บรรยากาศกำลังมาคุ เมื่อชิงหลินปฏิเสธความช่วยเหลือจากหงส์เพลิงที่อาสาพานางกลับเมืองหลวง เพราะรู้ว่านางกำลังตั้งครรภ์ การต้องมาอยู่ในที่ที่กันดารอาหารการกินฝืดเคือง สภาพแวดล้อมย่ำแย่เช่นนี้ อาจเป็นอันตรายต่อเด็กที่อยู่ในครรภ์ก็เป็นได้ ชิงหลินรู้ถึงเรื่องนั้นดีแต่ชาวบ้านกำลังเดือดร้อน รอการช่วยเหลืออยู่แล้วจะให้หนีกลับเมืองหลวงไปได้อย่างไร

"ข้ารู้ว่าท่านเป็นห่วงข้ากับลูก แต่ท่านรู้หรือว่าตำแหน่งตาน้ำใต้ดินอยู่ตรงไหนบ้าง?"ชิงหลินใช้คำถามที่เป็นดั่งไพ่ใบสุดท้ายกับสามี ดวงตากลมโตฉายแววจริงจังดื้อรั้น "การช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เป็นงานที่เร่งด่วนจะรอช้าไม่ได้ ไม่ใช่หรือเจ้าคะ?"พูดต่อเมื่อเห็นสามียังนั่งกอดอกคิ้วขมวดมุ่น

"เรื่องนั้นพี่รู้ดี แต่เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ ต่อให้ระมัดระวังเพียงใด ก็ใช่ว่าจะป้องกันได้เต็มร้อย แล้วหากเกิดเรื่องเหตุร้ายกับเจ้าและลูก คิดบ้างหรือไม่ว่าพี่จะรู้สึกเช่นไร?"พยายามอธิบายอย่างใจเย็นหวังให้นางเข้าใจถึงความรู้สึกของตน

"ข้ารู้ ข้ารู้ดี..แต่ว่า...ชาวบ้าน..."น้ำเสียงอ่อนลงมากแต่ยังแฝงความดื้อรั้นไม่ยอม

"หลินเอ๋อร์...พี่รู้ว่าเจ้ารู้สึกอย่างไร พี่เองก็ปรารถนาให้เจ้าอยู่เคียงข้างพี่เช่นกัน"มู่หลิ่งเหวินกุมมือทั้งสองข้างของนางบีบเบาๆ ดวงตาคมทรงเสน่ห์เป็นประกายเจ็บปวดยามนึกถึงวันที่ต้องแยกจากภรรยา

"เรื่องนี้ข้าจะช่วยเจ้าเอง"หงส์เพลิงส่งกระแสจิตแทรกขึ้นให้ได้ยินทั้งสองคน หลังจากได้ฟังการโต้เถียงของคู่สามีภรรยา

หงส์เพลิงเป็นหนึ่งในสี่สัตว์เทพตัวแทนธาตุไฟ มีพลังอำนาจในการทำลายล้าง เผาผลาญสิ่งต่างๆให้วอดวายกลายเป็นเถ้าถ่านได้ภายในชั่วพริบตา ยามที่หงส์เพลิงพิโรธร่างกายของมันจะลุกเป็นไฟ สามารถเผาเมืองให้มอดไหม้เป็นจุลเพียงปล่อยลูกไฟออกมาเพียงลูกเดียว ลูกไฟที่ร้อนแรงจนละลายศิลาที่ขึ้นชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดได้อย่างง่ายดาย

แต่หงส์เพลิงมีนิสัยชอบความสงบ รักสันโดษไม่ยุ่งเกี่ยวกับผู้ใดและที่เมืองชานตงเกิดภัยแล้ง ล้วนเป็นฝีมือของเจ้าพวกมนุษย์เองทั้งสิ้นหาได้เกี่ยวข้องอันใดกับมันไม่

หนุ่มสาวทั้งสองหันขวับมาทางหงส์เพลิงที่ยืนอย่างสง่างามอยู่กลางโต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่ด้วยความประหลาดใจ

"ความหมายของท่านคือ...?"ชิงหลินส่งกระแสจิตถามก่อน

"ข้าจะพาเจ้าไปยังที่ๆเจ้าต้องการอย่างไรเล่า"หงส์เพลิงหันมาทางคนถามแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจัง

"พาไปทุกที่? ที่ข้าต้องการ?"นางทวนคำแล้วมองหน้าสามีแวบหนึ่ง ก่อนจะหันมาทางหงส์เพลิงเพื่อความแน่ใจ

"ทุกที่ที่เจ้าต้องการ"หงส์เพลิงเน้นย้ำทุกคำช้าๆชัดเต็มไปด้วยความจริงใจ ดวงตาสีแดงเพลิงสบตานางไม่ยอมหลบ

"..อา..ขอบคุณมากเจ้าค่ะ"คำตอบของหงส์เพลิงเรียกรอยยิ้มกว้างจากใบหน้าจิ้มลิ้ม

"ขอบคุณท่านมาก นับเป็นบุญวาสนาของชาวบ้านโดยแท้ ที่ได้รับความเมตตานี้"มู่หลิ่งเหวินกล่าวออกเสียงเมื่อได้ฟังสิ่งที่นางบอก

"เป็นเพราะจิตใจอันงดงามของนาง ข้าถึงได้ยื่นมือเข้าช่วย หาใช่ความตั้งใจข้าไม่"หงส์เพลิงตั้งใจให้แม่ทัพหนุ่มได้ยินสิ่งที่ตนเองกล่าว

เมื่อตกลงเป็นที่เรียบร้อยก็ล่วงเข้ายามซื่อ ชิงหลินพร้อมสี่สหายน้อยก็ขึ้นไปนั่งอยู่บนหลังของหงส์เพลิงที่ขยายร่างใหญ่แล้วหายวับไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตื่นตะลึงแก่ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ยิ่งนักไม่เว้นมู่หลิ่งเหวินและทหารองครักษ์ทั้งหลาย

ขณะที่ยืนมองท้องฟ้าที่ว่างเปล่าอย่างกังวลใจจิ๋นอี้ก็เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด

"...เรียนท่านแม่ทัพ"จิ๋นอี้สูดลมเข้าแรงแล้วเอ่ยขึ้น

"..ว่ามา"อีกฝ่ายตอบกลับโดยไม่หันมามองหน้า

"มีข่าวไม่สู้ดีขอรับ"

"ข่าวไม่สู้ดี? จากที่ใด?"เลิกคิ้วถาม ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยไร้อารมณ์

"นี่ขอรับ"จิ๋นอี้ยื่นม้วนกระดาษเล็กๆที่ได้จากพิราบสื่อสารให้ท่านแม่ทัพ

มู่หลิ่งเหวินรับไปอย่างไม่ใส่ใจนัก แต่เมื่อได้อ่านข้อความในสาร ใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์แปรเปลี่ยนไปขาวซีด มือที่จับกระดาษสั่นอย่างห้ามไม่อยู่

"ท่านแม่ทัพ!"จิ๋นซาน จิ๋นซื่อที่ยืนอยู่ข้างหลังรีบเข้ามาพยุงร่างของแม่ทัพหนุ่มที่ซวนเซทำท่าจะล้มแต่ต้องชะงักเมื่อแม่ทัพหนุ่มยกมือห้าม

…..อำเภอชิงไห่ถูกโจรยึดแล้ว...

ข้อความสั้นๆแต่สั่นสะเทือนไปทั้งใจ แม่ทัพหนุ่มกำหมัดแน่นจนสารน้อยแหลกละเอียดคามือ ดวงตาคมเต็มไปด้วยความกังวลใจเป็นที่สุด

เพราะจุดหมายที่ภรรยาอันเป็นที่รักไป ก็คือ อำเภอชิงไห่!


CREATORS' THOUGHTS
SARABIYA_1501 SARABIYA_1501

ของขวัญจากผู้อ่านคือกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงาน ช่วยส่งกำลังใจให้ไรต์หน่อยน้า^_^

Load failed, please RETRY

Weekly Power Status

Rank -- Power Ranking
Stone -- Power stone

Batch unlock chapters

Table of Contents

Display Options

Background

Font

Size

Chapter comments

Write a review Reading Status: C78
Fail to post. Please try again
  • Writing Quality
  • Stability of Updates
  • Story Development
  • Character Design
  • World Background

The total score 0.0

Review posted successfully! Read more reviews
Vote with Power Stone
Rank NO.-- Power Ranking
Stone -- Power Stone
Report inappropriate content
error Tip

Report abuse

Paragraph comments

Login