Download App

Chapter 5: ตอนที่ 5 : ผัดกะเพราหมูสับ – 2

ปลาวาฬมายืนเสนอหน้าอยู่ที่ กะเพราร้านนี้ไม่มีถั่วฝักยาว อีกครั้ง

มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นใครเดินไปเดินมา หน้าร้านปิดเงียบ น่าจะเป็นเพราะนอกเวลาทำการ ปรกติร้านอาหารของเชฟโอบจะเป็นร้านแบบไฟน์ไดนิ่ง เปิดรับลูกค้าเฉพาะช่วงกลางวันและเย็น ต้องนัดล่วงหน้า แต่เขาจงใจมาในเวลาบ่าย นั่นก็เพื่อจะได้ไม่ชนกับเวลารับลูกค้านั่นเอง

เขากดกริ่งด้วยท่าทีกล้า ๆ กลัว ๆ

นานไม่น้อยกว่าจะมีเสียงเรียกตอบรับกลับมาจากหลังประตู หัวใจเต้นดังตึกตัก หากเชฟโอบไม่รับเป็นศิษย์ เกมนี้ก็จะจบตั้งแต่ต้น ไม่ได้ ๆ ไม่ว่ายังเขาก็จะทำให้สำเร็จ ขึ้นชื่อว่าปลาวาฬแล้ว เพื่อเงินต้องทำได้ทุกอย่าง ถ่ายแบบกางเกงในต่อหน้าคนเป็นสิบยังผ่านมาแล้ว งานนี้ก็ต้องทำให้ได้เหมือนกัน

"ร้านยังไม่เปิดนะครับ คุณลูกค้า"

ประตูแง้มเปิดพร้อมกับคนที่เขาพอจะคุ้นเคยหน้า เชฟเกลือ คนที่มาต้อนรับครั้งแล้วตอนที่มาที่ร้านนั่นเอง เขารีบยกมือไหว้เป็นเชิงขอโทษ

"พอดีมาติดต่อธุระน่ะครับ ก่อนเข้ามาพยายามโทรเข้ามาแล้ว แต่ไม่มีใครรับ"

ปลาวาฬตอบพร้อมประโยคที่เหมือนจะเป็นข้อแก้ตัว ปรกติร้านอาหารนี้รับจองคิวเฉพาะทางอีเมลเท่านั้น ข้อมูลการเดินทางหรือรายละเอียดสารพัดสารพันก็แจ้งไว้ในแฟนเพจ โทรศัพท์ของที่นี่จึงเหมือนอุปกรณ์ติดต่อกับเมืองลับแล โทรยังไงก็ไม่ติด

"อ้อ ว่าไงครับ"

"พอดีผมเห็นประกาศรับสมัครผู้สืบทอดร้าน ผมเลยอยากมาสมัครครับ"

นายแบบหนุ่มกลั้นใจอยู่ห้วงหนึ่งก่อนจะเริ่มต้นพูดออกไป คนตรงหน้าดูจะนิ่งไปพักหนึ่ง สายตาจับมาในเชิงสำรวจ เหมือนจะตรึกตรองอะไรในใจสักอย่าง

"เห็นประกาศจากไหนเหรอครับ"

"พอดีครั้งที่แล้วผมมากินที่ร้านน่ะครับ เห็นป้ายอยู่บนประกาศทางเข้า"

ความจริงเขาไม่ได้เห็นหรอก พี่อี๊ดต่างหากที่ให้ข้อมูลมาเป็นรูปที่ถูกถ่ายและแชร์ต่อ ๆ กันมาในโซเชียล แต่ถ้าตอบว่าเห็นจากเฟซบุ๊กอาจจะดูไม่จริงจังเท่าไหร่ ถ้าตอบว่าเห็นจากที่ร้านน่าจะมีภาษีดีกว่า อย่างน้อยก็ได้บอกว่าเคยมากินที่ร้านแล้ว

"เคยเป็นเชฟร้านไหนมาก่อนหรือเปล่าครับ"

เจ้าของแว่นตาทรงกลมเปิดพื้นที่ให้เขาเดินเข้าไปในร้าน หัวใจข้างในสั่นเป็นกลองศึก ปลาวาฬพยายามสูดลมหายใจลึก ๆ จะได้ไม่เผลอแสดงความหวั่นวิตกอะไรออกไป

"ไม่เคยครับ"

เขาตอบอย่างรวดเร็ว แทบไม่ต้องคิด ทำกินเองยังแทบไม่เคย จะเอาอะไรไปทำขายล่ะ แต่ใจเขาก็วูบไปเมื่อได้ยินคำถามต่อไปอีก

"เคยทำงานอยู่ร้านอาหารไหมครับ"

"ไม่เคยครับ"

"ทำอาหารเป็นใช่ไหมครับ"

"นิดหน่อยครับ"

อันนี้ถือว่าโกหกไหมนะ ไม่หรอก บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ถือว่าเป็นอาหารนี่ จะมาจ้วบจ้าบอาหารยามยากของเขาไม่ได้นะ ทำได้เหมือนกันนั่นแหละ

"เดี๋ยวลองคุยกับเชฟโอบดูแล้วกันนะครับ"

เกลือพาปลาวาฬเดินเข้ามาในร้านขนาดเล็กเรื่อย ๆ บรรยากาศดูเหมือนจะเป็นบ้านเล็ก ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก ถึงแม้ว่าจะดูเก่าอยู่พอสมควร แต่ไม้บนพื้นก็เป็นมันเงา บอกถึงการดูแลรักษาอย่างพิถีพิถัน เขามาหยุดอยู่หน้าประตูห้องหนึ่ง ไม่มีป้ายอะไรเขียน ตรงทางเดินด้านในที่ลูกค้าทั่วไปคงจะไม่มีโอกาสได้เข้ามา ปลาวาฬตื่นเต้นจนแทบจะได้ยินเสียงหัวใจของตัวเอง

เกลือเคาะประตูและมีเสียงเข้มร้องตอบ

มือของคนเคาะจึงหมุนประตูเปิดออกและบอกเรื่องที่มาที่ห้องสั้น ๆ เจ้าของห้องพยักหน้า แจ้งว่าให้เขาเข้าไปนั่งเพื่อสัมภาษณ์ ปลาวาฬเดินเข้าไปในห้องอย่างเก้ ๆ กัง ๆ หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตัวเดียวที่มีอยู่ตรงข้ามเชฟโอบ ก่อนที่เกลือจะปิดประตูจากไป

"ชื่ออะไร"

เสียงเข้มดังขึ้นจากคนที่ยังนั่งดูเอกสารอะไรบนโต๊ะ เหลือบตาขึ้นมามองเพียงน้อย เอ นี่เขาต้องเตรียมเรซูเม่มาด้วยหรือเปล่านะ ไม่เคยสมัครงานเป็นเชฟมาก่อนด้วยสิ

"ปลาวาฬครับ"

เขาตอบ ทำใจดีสู้เสือ เอ๊ย สู้เชฟหน้าเสือ คนอีกฝั่งเงยหน้าขึ้นมามองเล็กน้อย หรี่ตา เหมือนจะจับผิด ไม่กลัวหรอกน่า

"วาฬไม่ใช่ปลานี่ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม"

อาห์ อันนี้ถือเป็นคำถามสัมภาษณ์ไหมนะ ตอบแบบกวนเบื้องล่างได้ไหมนะ หรือต้องตอบด้วยชีววิทยาพื้นฐานดี นี่ร้านอาหารหรือพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ

"วาฬไม่ใช่ปลา โลมาก็ไม่ใช่ปลาครับ" เขาประกบมือเป็นท่าปลาแล้วก็ว่ายไปว่ายมา "แต่ปลาในชื่อผมหมายถึงลักษณะของสัตว์ ไม่ได้หมายถึงการแบ่งกลุ่มตามแบบอนุกรมวิธาน ดังนั้นเรียกได้ครับ"

ผู้สมัครโยกย้ายมือไปมาแถมยังเผลอหลุดขำอยู่คนเดียว แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นมาเจอหน้าดุ ๆ ของอีกคนก็ได้แต่ร้องว่า ชะอุ๊ย! ในใจ

"เคยทำงานร้านอาหารที่ไหนมาบ้าง"

"ไม่เคยครับ"

"เคยเป็นเชฟไหม"

"ไม่เคยครับ"

"แล้วมาสมัครเป็นเชฟที่นี่ทำไม"

เพราะเงินครับ เอ๊ย ตอบไม่ได้ ปลาวาฬยิ้มแหยให้คนถามก่อนหนึ่งที ในขณะที่อีกฝ่ายคิ้วขมวดจนแทบจะกลายเป็นตัว ฏ.ปฏัก อยู่แล้ว

"ผมอยากเป็นเชฟครับ"

คำตอบเรียบ สั้น ง่าย และคิดมาจากบ้าน ผ่านการซักซ้อมและวางบทให้โดยไอ้เจเจเพื่อนรัก คนถามดูนิ่งไปพักหนึ่ง ไม่เสียแรงที่มีเพื่อนฉลาด

"แค่อยาก มันไม่พอหรือเปล่า"

บรรยากาศเหมือนจะกดดัน แต่เขากลับรู้สึกไม่ค่อยจะกดดันเท่าไหร่นัก ตอบไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไม อาจจะเป็นเพราะกลิ่นกะเพราที่ลอยอบอวลอยู่ในเวลานี้ด้วยมั้ง

"ผมอยากและผมก็มีความพยายามจะเป็นด้วยครับ ผมยินดีที่จะเรียนรู้ทุกอย่าง ผมเห็นในประกาศแล้ว เชฟบอกว่าต้องเรียนรู้และฝึกมือเป็นลูกมือในร้านก่อน หลังจากนั้นก็จะมีการสอบเป็นขั้น ๆ"

เจเจเขียนบท ปลาวาฬทำการแสดง

"รับผมไว้เถอะครับ อย่างน้อยก็เป็นลูกมือในครัวไปก่อน ถ้าผมไม่ไหวจริง ๆ ตอนสอบเชฟก็ค่อยคัดผมออกไงครับ ระหว่างนี้ผมจะพิสูจน์ให้เชฟเห็นว่าผมตั้งใจจริงขนาดไหน"

เหมือนซีรีส์ญี่ปุ่นฉิบหาย พระเอกมาคำนับของานจากตาแก่หน้าดุ นี่ถ้ามีกล้องคอยรับหน้าแคบถี่ ๆ นี่ใช่เลย โอเนไกชิมัส ขอความกรุณาด้วยนะครับเชฟ

"ชอบกินกะเพราหรือเปล่า" เสียงนั่นถาม

"ชอบครับ ชอบมาก" ตอบอย่างรวดเร็ว และไม่โกหกแม้แต่เดซิเบลด้วย

"ดี งั้นมาทดสอบกัน"

เจ้าของร้านยิ้มออกมาหนึ่งครั้ง ตอบไม่ถูกว่าเป็นอารมณ์ไหน นึกสนุก เจ้าเล่ห์ หรืออยากจะเอาชนะ แต่ที่รู้แน่ ๆ คือเขารู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูก

"ถ้านายผ่านบททดสอบนี้ได้ ฉันจะรับนายเป็นลูกมือ!"


CREATORS' THOUGHTS
NINEPINTA NINEPINTA

มาช่วยเป็นกำลังใจให้ว่าที่เชฟฝึกหัดคนใหม่ เจ้าปลาวาฬของเรากันด้วยน้า

...................

ขอฝากช่องทางการติดตามผลงานของนายพินต้าไว้หน่อยน้า

Facebook: นายพินต้า - ninepinta

Twitter: @NINEPINTA

IG: ninepinta

Load failed, please RETRY

Gifts

Gift -- Gift received

    Weekly Power Status

    Rank -- Power Ranking
    Stone -- Power stone

    Batch unlock chapters

    Table of Contents

    Display Options

    Background

    Font

    Size

    Chapter comments

    Write a review Reading Status: C5
    Fail to post. Please try again
    • Writing Quality
    • Stability of Updates
    • Story Development
    • Character Design
    • World Background

    The total score 0.0

    Review posted successfully! Read more reviews
    Vote with Power Stone
    Rank NO.-- Power Ranking
    Stone -- Power Stone
    Report inappropriate content
    error Tip

    Report abuse

    Paragraph comments

    Login